การวาด/ลบ Trend Lines

 

แถบเครื่องนี้ช่วยให้ในการวาดเส้น Trend Lines และการเพิ่มข้อความลงบนกราฟ ซึ่งประกอบด้วย

    

1.     Freehand Trend Line

ใช้สำหรับการวาดเส้น Trend Line โดยคลิกเมาส์ค้างที่จุดเริ่มต้นแล้วลากเมาส์ไปยังจุดปลายสุดที่ต้องการ

วิธีการวาดเส้น Trend Line

1)    คลิกไอคอน  Freehand Trend Line.

2)    คลิกเมาส์ซ้ายจากจุดเริ่มต้นที่ต้องการ

3)    ลากเมาส์ไปยังจุดปลายสิ้นสุดที่ต้องการ

4)    จะปรากฎเส้น Trend line ขึ้น

 

 

5)    คลิกเมาส์ซ้ายซ้ำที่จุดสิ้นสุดที่ต้องการ

 

2.     Horizontal Line

วิธีการวาดเส้น Trend Line แบบแนวนอน

1)    คลิกไอคอน SNAGHTML6caf24 Horizontal Line

2)    คลิกเมาส์ซ้ายในจุดที่ต้องการ

 

 

3.     Trend Channel

Trend Channels ท่านสามารถสร้างเส้นแนวรับ-ต้านตามต้องการด้วยการวาดเส้นแบบคู่ขนาน (Parallel)

วิธีการวาดเส้น Channel Lines

1)    คลิกไอคอน  Trend Channel

2)    คลิกเมาส์ซ้ายจากจุดเริ่มต้นที่ต้องการ

3)    ลากเมาส์ไปยังจุดปลายสิ้นสุดที่ต้องการ

 

 

4)    จากนั้นให้ลากเมาส์ไปยังจุดที่ต้องการอีกจุดนึง เพื่อทำการวาดเส้นคู่ขนานกับเส้นหลัก

 

5)    คลิกเมาส์ซ้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อวางเส้นคู่ขนาน

 

4.      Speed Lines

Speed Lines เป็นรูปแบบการวิเคราะห์แนวโน้มการขึ้นลง โดยวัดอัตราการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของแนวโน้ม (อัตราเร่ง)

วิธีการวาดเส้น Speed Lines

1)     หาจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของแนวโน้ม

2)     คลิกไอคอน  Speed Lines

3)     กำหนดจุดเริ่มต้นและคลิกเมาส์ซ้ายจากจุดเริ่มต้น

4)     ลากเมาส์ไปยังจุดสูงสุดหรือต่ำสุด

5)     คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดสิ้นสุดที่ต้องการเพื่อล็อก Speed Lines

 

5.     Andrews’ Pitchfork

Andrews' Pitchfork เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่นิยมอีกตัวหนึ่งในรูปแบบวิธี Median Line (ML) ซึ่งถูกพัฒนาโดย Dr.Alan Andrew ซึ่งวิธีการนี้มี 3 จุดราคาที่มีนัยะสำคัญ คือ กำหนดจุดเริ่มต้นจุดแรกของแนวโน้มราคากำหนดให้เป็นจุด A, จุด B และสร้างเส้น Median Line เพื่อวาดกรอบการเคลื่อนที่ของราคา

วิธีการวาด Andrews' Pitchfork

1)     ระบุจุดเริ่มต้น A (จุดสูงสุด), B (จุดต่ำสุด), and C (จุดราคา)

2)     คลิกไอคอน  Andrews’ Pitchfork.

3)     กำหนดจุดเริ่มต้น A และคลิกเมาส์ซ้ายจากจุดเริ่มต้น

4)     เลื่อนเมาส์ไปยังจุด B และคลิกเมาส์ซ้ายที่จุด B

5)     เลื่อนเมาส์ไปยังจุด C

6)     จะปรากฎเส้น Median Line

7)     คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดสิ้นสุดที่ต้องการเพื่อล็อก Andrews' Pitchfork

6.     Fibonacci

การวิเคราะห์แบบ Fibonacci เป็นลำดับตัวเลขอนุกรม ที่ถูกค้นพบโดย Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาเลียน 

 

 

ซึ่งเกิดจากการที่เขาได้สังเกต และศึกษาปรากฎการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ เช่น รูปแบบของฟ้าแลบ รูปแบบของผลไม้ต่างๆ และรูปแบบของเปลือกหอยทาก เป็นต้น โดยพบว่าปรากฎการณ์เหล่านั้นมีรูปแบบปกติ และค่อนข้างสม่ำเสมอ

   

โดยได้นำมาคิดเป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ คือ เกิดจากการนำตัวเลข 2 ตัวหน้ามาบวกกัน เช่น 1 + 1 = 2, 1 + 2 = 3, 2 + 3 = 5, 3 + 5 = 8 และต่อๆ ไป

แต่สิ่งที่ทำให้ต้องพิศวงยิ่งไปกว่านั้นคือ ลำดับฟิโบนาซี่ตั้งแต่ตัวเลขค่าที่สี่เป็นต้นไป มีอัตราส่วนจากการหารตัวเลขลำดับหลังด้วยตัวเลขลำดับหน้า เช่น 5 หารด้วย 3, 8 หารด้วย 5, 13 หารด้วย8, 21 หารด้วย 13 ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงเลข 1.618 และเมื่อตัวเลขเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งใกล้เคียง 1.618 เป็นลำดับ Leonardo จึงเรียกชื่อตัวเลข 1.618 นี้เป็นภาษากรีกโบราณว่า “ฟี” (Phi) หรือ“อัตราส่วนทองคำ” (Golden ratio) ดังตารางด้านล่าง

จากตัวเลข Fibonacci ด้านบน จึงทำให้มีการประยุกต์นำมาใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ที่เชื่อว่ามีการเคลื่อนไหวในรูปแบบที่ค่อนข้างแน่นอน เพื่อนำไปใช้ค้นหาแนวโน้มแนวต้าน แนวรับ สัญญาณซื้อและขายของราคาหุ้น เช่น หากราคาตกลงมาเป็นสัดส่วนเท่าไหร่แล้ว ก็จะมีการเด้งกลับเท่ากลับสัดส่วนที่ตกลงมา

กลุ่มของเครื่องมือ Fibonacci ประกอบด้วย

  1.  Fibonacci Retracements

Fibonacci Retracements คือ การหาจุดแนวรับและแนวต้านเส้นขนานแบบแนวนอน เพื่อหาราคาเป้าหมาย โดยใช้ตัวเลข Fibonacci number เป็นเป้าหมายในแต่ละระดับ

ตัวอย่างแนวโน้มขึ้น

หากดูจากภาพด้านบนจะเห็นว่ากราฟราคาทองคำมีลักษณะเป็นแนวโน้มขึ้น (ราคาขึ้นต่อเนื่อง ย่อตัวลง แล้วเด้งขึ้นต่อ) ท่านสามารถหาเป้าขาย โดยใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracements เพื่อคำนวณหาแนวรับ แนวต้านได้โดย

ขั้นที่ 1:  เริ่มจากการสร้างจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดของช่วงราคา ดังภาพด้านล่าง

·         สร้างจุด A เป็นจุดสูงสุด (จุดเริ่มต้นค่าฟิโบนาซี่จะเท่ากับ 0%)

·         สร้างจุด B เป็นจุดต่ำสุด (จุดต่ำสุดค่าฟิโบนาซี่จะเท่ากับ 100%)

ขั้นที่ 2: เมื่อกำหนดจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดได้แล้ว  จะปรากฎเส้นแบ่งช่องว่างระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดตามระดับ Fibonacci Retracements (อัตราส่วนตัวเลขฟิโบนาซี่) จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจุด A ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้านและจุด B ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับ

ขั้นที่ 3: จากกราฟราคาด้านล่างสามารถวิเคราะห์หาแนวรับ แนวต้านได้ดังนี้

ตัวอย่างแนวโน้มลง

จากภาพกราฟราคาทองด้านบนจะเห็นว่า กราฟราคาเป็นแนวโน้มลง (ราคาลงต่อเนื่อง เด้งขึ้น แล้วย่อตัวลงต่อ) ท่านสามารถหาเป้าซื้อโดยใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracements เพื่อคำนวณหาแนวรับ แนวต้านได้โดย

ขั้นที่ 1: เริ่มจากการสร้างจุดต่ำสุด และจุดสูงสุดของช่วงราคา ดังภาพด้านล่าง

·         สร้างจุด A เป็นจุดต่ำสุด (จุดเริ่มต้นค่าฟิโบนาซี่จะเท่ากับ 0%)

·         สร้างจุด B เป็นจุดสูงสุด (จุดสูงสุดค่าฟิโบนาซี่จะเท่ากับ 100%)

ขั้นที่ 2: เมื่อกำหนดจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดได้แล้ว  จะปรากฎเส้นแบ่งช่องว่างระหว่างจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดตามอัตราส่วนตัวเลขฟิโบนาซี่ จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจุด A ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับและจุด B ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน

 

 

ขั้นที่ 3: วิเคราะห์แนวรับ แนวต้านของกราฟราคาได้ดังนี้

 

 

ในทางกลับกันหากราคาสามารถทะลุผ่าน High ได้ ท่านต้องเปลี่ยนการลากเส้น Fibonacci จากแนวโน้มขาลงมาเป็นแบบขาขึ้นแทน โดยกำหนดให้จุดสูงสุด (จุดเริ่มต้นเท่ากับ 0%) และจุดต่ำสุด (จุดต่ำสุดเท่ากับ 100%)

วิธีการวาดเส้น Fibonacci Retracements

1.     คลิกไอคอน  Chart บนแถบเครื่องมือ

 

2.     พิมพ์ Symbol ที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter

 

3.     คลิกไอคอน  เพื่อแสดงคำสั่งที่ซ่อนอยู่

 

 

4.     คลิกไอคอน   Fibonacci แล้วคลิกที่ Retracements

 

 

5.     คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดเริ่ม A (จุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุด ขึ้นอยู่กับการหาแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง)

6.     ลากเมาส์ไปยังจุดสิ้นสุด B (จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด ขึ้นอยู่กับการหาแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง) และคลิกเมาส์ซ้ายอีกครั้งหนึ่ง

 

7.     จะปรากฎเส้น Retracements พร้อมอัตราส่วนตัวเลขฟิโบนาซี่และราคาเป้าหมาย

 

การเพิ่มเส้น Mirror และ Repeat บนเครื่องมือ Fibonacci Retracements
อัตราส่วนตัวเลข Fibonacci Retracements บนโปรแกรม Aspen for Browser ประกอบด้วย 0.00%, 23.60%, 38.20%, 50.00%, 61.80%, 76.40% และ 100% ตามลำดับ หากต้องการเพิ่มเส้นอัตราส่วนเพื่อหาราคาเป้าหมายในอนาคต ท่านสามารถใช้คำสั่ง Mirror, Repeat ได้จากไอคอน Properties บนแถบเครื่องมือ

คำสั่ง Mirror คือ การเพิ่มเส้นสะท้อน ลักษณะเส้นที่ได้จะสะท้อนเหมือนกระจกเงา

คำสั่ง Repeat คือ การเพิ่มเส้น Fibonacci Retracements ที่มากกว่า 100%


วิธีการเพิ่มเส้น Mirror, Repeat บนเครื่องมือ Fibonacci Retracements

1. สร้างเส้น Fibonacci Retracements บนกราฟราคา

2. คลิกไอคอน  เพื่อแสดงคำสั่งที่ซ่อนอยู่

3. คลิกไอคอน Properties 

4.     จะปรากฎหน้าต่าง Channel Line Properties ขึ้นมา

 

 

5.     ถ้าต้องการเพิ่มเส้น Mirror ให้คลิกในกรอบสี่เหลี่ยมให้เกิดเครื่องหมายถูกหน้า Mirror จะปรากฎเส้นอัตราส่วน Fibonacci Retracements เพิ่มขึ้นดังภาพ

6.     ถ้าต้องการเพิ่มเส้น Repeat ให้คลิกในกรอบสี่เหลี่ยมให้เกิดเครื่องหมายถูกหน้า Repeat จะปรากฎเส้นอัตราส่วน Fibonacci Retracements เพิ่มขึ้นดังภาพ


  1.  Fibonacci Arc

การวาด Fibonacci Arc

1)    ระบุจุดเริ่มต้น A (จุดสูงสุด), B (จุดต่ำสุด)

2)    คลิกไอคอน  Fibonacci และเลือกไอคอน  Arc

3)    คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดเริ่ม A (จุดสูงสุด)

4)    ลากเมาส์ไปยังจุดสิ้นสุด B (จุดต่ำสุด) และคลิกเมาส์ซ้าย

5)    จะปรากฎเส้น Arc ขึ้น

 

  1.  Fibonacci Fan

การวาด Fibonacci Fan

1)     ระบุจุดเริ่มต้น A (จุดต่ำสุด), B (จุดสูงสุด)

2)     คลิกไอคอน  Fibonacci และเลือกไอคอน  Fan

3)     คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดเริ่ม A (จุดต่ำสุด)

4)     ลากเมาส์ไปยังจุดสิ้นสุด B (จุดสูงสุด) และคลิกเมาส์ซ้าย

5)     จะปรากฎเส้น Fan ขึ้น

 

  1.  Single-Bar Time Zones/Fibonacci Time Zones

Fibonacci Time Zones คือ การสร้างเส้นฟิโบนาซี่แบบแนวตั้ง โดยแบ่งเป็นช่วงระยะเวลาตามลำดับตัวเลข Fibonacci (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21…) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาว่าจะไปในทิศทางใด อาจดำเนินต่อตามแนวโน้มเดิมหลังจากมีการชะลอตัว หรืออาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อราคาวิ่งเข้าใกล้หรือตรงกับเส้นแบ่งช่วงเวลา

วิเคราะห์แนวโน้มจากจุดต่ำสุด (ฐาน)

 

จากภาพด้านบน ท่านสามารถหาแนวโน้ม SET ด้วยเครื่องมือ Fibonacci Time Zones เพื่อดูว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางเดิม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้

ขั้นที่ 1: กำหนดจุดเริ่มต้นของเส้น Fibonacci Time Zones ที่จุดต่ำสุดของแนวโน้ม

ขั้นที่ 2: เมื่อกำหนดจุดต่ำสุดแล้ว จะปรากฎเส้นแบ่งช่วงระยะเวลาตามตัวเลข Fibonacci (ลำดับตัวเลขฟิโบนาซี่)

 

ซึ่งแต่ละจุดของ Fibonacci Time Zones จะเท่ากับลำดับตัวเลข Fibonacci ดังรายละเอียดตารางด้านล่าง

ขั้นที่ 3: จากภาพด้านล่างสามารถวิเคราะห์ Fibonacci Time Zones แบบช่วงเวลาที่ราคามีการปรับตัวสร้างจุดฐานที่สำคัญได้ดังนี้

 

 

วิเคราะห์แนวโน้มจากจุดสูงสุด (ยอด)

จากภาพด้านบน สามารถหาแนวโน้ม SET ด้วยเครื่องมือ Fibonacci Time Zones เพื่อดูว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางเดิม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้

ขั้นที่ 1: กำหนดจุดเริ่มต้นของเส้น Fibonacci Time Zones ที่จุดสูงสุดของแนวโน้ม

ขั้นที่ 2: เมื่อกำหนดจุดสูงสุดของช่วงราคาได้แล้ว จะปรากฎเส้นแบ่งช่วงระยะเวลาตามตัวเลข Fibonacci (ลำดับตัวเลขฟิโบนาซี่)

ขั้นที่ 3: จากภาพด้านล่างสามารถวิเคราะห์ Fibonacci Time Zones แบบช่วงเวลาที่ราคามีการปรับตัวสร้างจุดฐานที่สำคัญได้ดังนี้

 

วิธีการวาดเส้น Fibonacci Time Zones

1. คลิกไอคอน  Chart บนแถบเครื่องมือ

         

 2. พิมพ์ Symbol ที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter

 3. คลิกไอคอน  เพื่อแสดงคำสั่งที่ซ่อนอยู่

 4. คลิกไอคอน   Fibonacci แล้วคลิกที่  Single-Bar Time Zones

5. คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุด

6. จะปรากฎเส้น Time Zones พร้อมลำดับตัวเลขฟิโบนาซี่

 

  1.  Custom Time Zones

Fibonacci Custom Time Zones ช่วยให้ท่านสามารถกำหนดช่วงเวลาได้ด้วยตนเอง

การวาด Fibonacci Fan

1)    ระบุจุดเริ่มต้น A (จุดสูงสุด), B (จุดต่ำสุด)

2)    คลิกไอคอน  Fibonacci และเลือกไอคอน  Custom Time Zones.

3)    คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดเริ่ม A (จุดสูงสุด)

4)    ลากเมาส์ไปยังจุดสิ้นสุด B (จุดต่ำสุด) และคลิกเมาส์ซ้าย

5)    จะปรากฎเส้น Fibonacci Custom Time Zones ขึ้น

 

  1.  Projection

เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพยากรณ์แนวรับ-ต้าน เพื่อวิเคราะห์ราคาเป้าหมาย ซึ่งท่านต้องกำหนดจุด 3 จุด คือ จุดต่ำสุด, จุดสูงสุด และจุดกลับตัว (หรือที่จุดราคาปัจจุบัน) ทิศทางแนวโน้มขาขึ้นให้กำหนดจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุดและจุดราคาปัจจุบัน ในทางกลับกันหากท่านต้องการหาแนวโน้มขาลงให้กำหนดจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดมาให้จุดราคาปัจจุบัน

การวาด Fibonacci Projections

1)    แนวโน้มขึ้น: ระบุจุดเริ่มต้น A (การแกว่งตัวจุดต่ำสุด), จุด B (การแกว่งตัวจุดสูงสุด) และจุด C (จุดกลับตัว/ราคาปัจจุบัน) หากท่านต้องการหาแนวโน้มลง ให้สร้างวิธีการตรงกันข้าม

2)    คลิกไอคอน  Fibonacci และเลือกไอคอน  Projection

3)    คลิกเมาส์ซ้ายที่จุดเริ่ม A

4)    ลากเมาส์ไปยังจุด B และคลิกเมาส์ซ้าย

5)    ลากเมาส์ไปยังจุด C และคลิกเมาส์ซ้ายบนจุด B

6)    จะปรากฎเส้น Fibonacci Projection ขึ้น

 

 

7.     Annotate Chart

เครื่องมือ Annotation ช่วยให้ท่านวางข้อความลงบนกราฟ

วิธีการสร้าง Annotate Chart

1)    คลิกไอคอน  Annotate Chart

2)    ลากเมาส์ไปยังจุดที่ต้องการวางข้อความบนกราฟ

3)    คลิกเมาส์ซ้าย จะปรากฎกรอบให้ใส่ข้อความ

4)    พิมพ์ข้อความที่คุณต้องการลงบนกราฟ

หมายเหตุ: กด Enter คือการขึ้นบรรทัดใหม่

5)    กด Ctrl + Enter เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

 

6)    การปรับแต่ง Properties ของ Annotate Chart properties คลิกไอคอน  Properties

8.     Call Out

เครื่องมือ Callout ช่วยในการสร้างกล่องข้อความเพื่อบอกรายละเอียดของแต่ระดับราคา หรือเหตุการณ์สำคัญๆ ของตลาดหุ้นบนกราฟ

การสร้าง Callout

1)    คลิกไอคอน  Call Out

2)    กำหนดจุดที่ต้องการและคลิกเมาส์ซ้าย

3)    ลากเมาส์ไปยังบริเวณที่ต้องการ และคลิกเมาส์ซ้ายเพื่อพิมพ์ข้อความในกล่องข้อความ

หมายเหตุ: กด Enter คือการขึ้นบรรทัดใหม่

4)    กด Ctrl + Enter เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จเรียบร้อยแล้ว

5)    การปรับแต่ง Properties ของ Call out คลิกไอคอน  Properties

9.     Delete Selected Object

การลบ Trend Line หรือวัตถุที่สร้างขึ้น

1)    คลิกไอคอน  Pointer Tool

2)    เลื่อนเมาส์ไปยังเส้น Trend Line หรือวัตถุที่ต้องการลบและคลิกเมาส์ซ้าย

3)    คลิกไอคอน  Delete Selected Object หรือกดปุ่ม Delete บนคีย์บอร์ด

10.   Delete All Objects

การลบ Trend Line หรือวัตถุที่สร้างขึ้นทั้งหมดในครั้งเดียว

1)    คลิกไอคอน  Pointer Tool  

2)    คลิกไอคอน  Delete All Objects หรือกดปุ่ม Delete บนคีย์บอร์ด

3)    หน้าต่าง Delete All Objects จะปรากฎขึ้น

4)    คลิก OK

11.   Pointer Tool

เครื่องมือ Pointer ช่วยในการเคลื่อนย้าย, คัดลอก Trend Line, ข้อความและวัตถุต่างๆ

12.   Pivoting Trend Lines

การใช้ Pivot กับ Trend Line

1)    คลิกไอคอน  Pointer Tool  

2)    คลิกที่เส้น Trend Line จะปรากฎวงกลมสีวาดที่จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของเส้น Trend Line นั้น

 

3)    คลิกเมาส์ซ้ายบนเส้น Trend Line และลากเมาส์ยังจุดเริ่มหรือจุดสิ้นสุดของเส้น Trend Line

4)    คลิกเมาส์ซ้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำการล็อกเส้น Trend Line

13.   Moving Objects

การเคลื่อนย้ายวัตถุ

1)     คลิกไอคอน  Pointer Tool.

2)     คลิกวัตถุที่ต้องการย้าย สัญลักษณ์ของเมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป   

3)     คลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้และลากวัตถุไปยังที่ต้องการ

4)     เมื่อย้ายวัตถุไปยังที่ต้องการเรียบร้อยแล้วให้ท่านคลิกเมาส์ซ้ายอีกครั้งหนึ่ง

14.   Copying Objects

การคัดลอกวัตถุ ให้ทำวิธีเดียวกับการย้ายวัตถุ ข้อ 13 (ขั้นตอนที่ 1-3) โดยขั้นตอนสุดท้ายให้คลิกเมาส์ซ้ายค้างไว้พร้อมกับกดปุ่ม Ctrl

15.   Price Snap

Price Snap ช่วยให้การสร้าง Trend Line ใกล้กับเส้นกราฟราคามากที่สุด ท่านสามารถยกเลิก/เรียกใช้คำสั่ง โดยคลิกไอคอน  Price Snap

16.   Grid Lines

เพื่อช่วยซ่อนหรือแสดงเส้นตาราง (Grid lines) โดยคลิกไอคอน  Grid Lines

17.   Properties

แสดง Properties ของกราฟหรือ Object ในวินโดวส์กราฟ

1)    Chart Properties

 

 

Scale Tab                         

สเกลราคา (แนวตั้ง) สามารถเลือกตั้งค่าได้ดังนี้

คำสั่ง

รายละเอียด

Linear

แกนราคาตามจริง

Log

แกนราคาแบบ Logarithm

Percent Change

แกนราคาแบบเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลง

สเกลเวลา (แนวนอน) สามารถเลือกตั้งค่าได้ดังนี้

คำสั่ง

รายละเอียด

Width

การตั้งค่าจำนวนเวลาใน 1 แท่งกราฟ เช่น ราย Tick, รายนาที หรือรายวัน เป็นต้น

การเปลี่ยนค่าของ Width เช่น ต้องการให้ 1 แท่งกราฟเท่ากับ 5 นาที เป็นต้น

Percent Change

แกนราคาแบบเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลง

Data Tab

คำสั่ง

รายละเอียด

Display bars for day session

แสดงข้อมูล Day Session

Display bars for night session

แสดงข้อมูล Night Session

Remove gaps in chart

ลบช่องว่าง (Gap) ในกราฟ

2)    Trend Line/Drawing Object Properties

คลิกบนเส้น Trend Line หรือบน Object ที่ต้องการแก้ไขการตั้งค่า Properties โดยคลิกไอคอน  Properties บนแถบเครื่องมือ

 

 

 

Back

 

Main Menu

 

Next